เราคงรู้กันแล้วว่า การออกกำลังกายใช้พลังงานและแหล่งที่มาของพลังงานในร่างกายมี 2 ส่วน คือ ไขมันและคาร์โบไฮเดรต สิ่งที่ชี้ให้เห็น คือ หากมองเฉพาะการเผาผลาญไขมัน จะพบว่าการวิ่งเหยาะๆ เผาผลาญไขมันเป็นสัดส่วนสูงสุดเมื่อเทียบกับการวิ่งทั่วไป และการวิ่งเร็วคิดเป็นร้อยละ 70 ของแหล่งที่มาของพลังงานมากกว่าการวิ่งทั่วๆไป (ร้อยละ 50) และการวิ่งสปีดหรือวิ่งเร็ว (ร้อยละ 10) ที่น่าประหลาดใจมากที่สุด คือ การเดินเผาผลาญไขมันได้เท่ากับหรือมากกว่าการวิ่งเหยาะ คือ ใช้ไขมันเป็นร้อยละ 70-85 ของแหล่งที่มาของพลังงาน เนื่องจากการเดินถือเป็นการใช้ความหนักในการออกกำลังกายไม่มาก (low intensity) ทำให้ได้ระยะทางไกลกว่าและเผาผลาญไขมันมากกว่าแป้ง ในขณะที่การวิ่งเป็นการใช้ความหนักในการออกกำลังกายที่มากกว่าและเหนื่อยเร็วกว่า เราจึงวิ่งไปไม่ได้ไกลหรือนานพอที่ไขมันจะถูกนำออกมาใช้ ซึ่งสำหรับคนสูงวัยนั้น การเดินโดยเฉพาะการเดินเร็ว (Brisk walking) จึงเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้สูงวัย เพราะเมื่อออกกำลังกายด้วยจังหวะที่ช้ากว่า ก็จะใช้เวลานานกว่า และได้ผลทางอ้อม คือ หัวใจจะถูกสั่งให้ทำงานนานแบบทนทานไปด้วย
แหล่งที่มา : นิตยสารหมอชาวบ้าน
ลงข้อมูลวันที่ 18 กรกฏาคม 2560