ศูนย์การแพทย์ภัทรมหาราชานุสรณ์
โครงการจัดสร้างโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ส่วนต่อขยายขนาด 400 เตียง และศูนย์การศึกษาของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ถือกำเนิดขึ้นจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน โครงการตั้งอยู่ภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ถนนแจ้งวัฒนะ บนเนื้อที่ 24 ไร่ มีกำหนดเริ่มดำเนินโครงการจัดสร้างอาคารในปี พ.ศ. 2560
“ศูนย์การแพทย์ภัทรมหาราชานุสรณ์” ให้เป็นชื่อของอาคาร อันมีความหมายว่า ศูนย์การแพทย์ที่ระลึกถึงพระมหากษัตริย์ผู้ประเสริฐยิ่ง เพื่อถวายราชสดุดี และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีต่อประชาชนไทยตลอดระยะเวลาที่ทรงครองสิริราชสมบัติ เพื่อการพัฒนา และยกระดับคุณภาพชีวิตของพสกนิกรชาวไทย โดยเสด็จทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2561
ศูนย์การแพทย์ภัทรมหาราชานุสรณ์ ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก คือ ศูนย์การแพทย์ซึ่งจะเป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิขนาดใหญ่ 400 เตียง เป็นส่วนต่อขยายของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ สำหรับให้บริการด้านสุขภาพและสาธารณสุขที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้การรักษาพยาบาลสำหรับประชาชนทุกระดับ โดยเป็นพระภารกิจที่เพิ่มขึ้นในการดูแลทุกข์สุขของประชาชน อันสืบเนื่องมาจากพระประสงค์ที่จะดูแลผู้ป่วยอื่นๆ อย่างครบวงจร ไม่เฉพาะแต่ผู้ป่วยโรคมะเร็งเท่านั้น เพราะราษฏรที่ทรงพบเห็นในถิ่นทุรกันดาร นอกเหนือจากโรคมะเร็งแล้วยังเจ็บป่วยด้วยโรคอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก ศูนย์การแพทย์แห่งใหม่นี้จะให้การตรวจวินิจฉัยและรักษาด้วยศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านต่างๆ ด้วยทีมแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนเทคโนโลยีและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยระดับมาตรฐานสากล นอกจากนี้ ด้วยพระวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลว่าควรมีการผลิตและพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ และมีจำนวนพอเพียง ศูนย์การแพทย์ภัทรมหาราชานุสรณ์ จึงเป็นอาคารสำหรับการเรียนการสอน และการวิจัยของ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยเป็นแหล่งพัฒนาองค์ความรู้ทางด้านวิชาการ งานวิจัย และนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ให้ทัดเทียมนานาประเทศ มุ่งสร้างบัณฑิต และพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์ พยาบาล และการสาธารณสุข ที่มีความเป็นเลิศควบคู่คุณธรรม จริยธรรม และจิตเมตตา เพื่อคุณประโยชน์อย่างเด่นชัดทางการแพทย์ ซึ่งเกิดมีขึ้นได้ด้วยพระบารมีปกเกล้าฯ ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งนับเป็นความโชคดีของประชาชนชาวไทยอย่างแท้จริง