รู้ไว้ก่อนวิ่ง ไม่มีคำว่า “เจ็บ”
ปัจจุบันนี้มีผู้ตระหนักถึงคุณค่าของการออกกำลังกายมากขึ้น โดยเฉพาะการวิ่ง ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่สามารถทำได้ง่ายๆ แต่อย่างไรก็ตาม เราจะเริ่มวิ่งอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ สุขภาพดี มีความสุข และไร้อาการบาดเจ็บ วิธีการมีดังนี้
1.ส้นนำ ปลายตาม : สิ่งสำคัญอันดับแรก เพื่อป้องกันการบาดเจ็บสำหรับนักวิ่งเพื่อสุขภาพ คือ ควรวิ่งด้วยการใช้ส้นเท้าสัมผัสพื้น ก่อนที่ทั้งฝ่าเท้าจะตามลงมา โดยจังหวะนี้หัวเข่าจะงอเล็กน้อย ส่วนเท้าที่เหวี่ยงไปด้านหลังควรเตะพื้นเบาๆ ซึ่งเป็นท่าวิ่งแบบเดียวกันกับนักวิ่งระยะไกล แต่ต่างกันที่นักวิ่งเร็วจะลงพื้นด้วยปลายเท้าก่อน ส่วนนักวิ่งระยะกลางจะลงพื้นด้วยอุ้งเท้าก่อน
2.หน้ามั่นหลังตรง : การวางตัว ให้หลังตรงเป็นธรรมชาติมากที่สุด หน้าและศีรษะมองตรงไปข้างหน้า จากศีรษะลงมาหัวไหล่และสะโพกจนถึงพื้นเป็นเส้นตรง ไม่ควรโน้มตัวไปข้างหน้า เพราะอาจทำให้มีอาการปวดหลัง นอกจากนี้การแกว่งมือจะไม่แกว่งสูงมาก ข้อศอกพับไม่เกิน 90 องศา กำมือหลวมๆ และมองตรงไปด้านหน้า
3.ไม่สั้น-ไม่ยาว ก้าวแบบพอดี : หลักการทั่วไปนั้น วิ่งช้าก้าวจะสั้น วิ่งเร็วก้าวจะยาว แต่การวิ่งโดยก้าวสั้นเกินไปจะทำให้ได้ระยะทางที่น้อย ส่วนการวิ่งก้าวยาวเกินไป จะทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน วิธีที่ดีที่สุดควรใช้กล้ามเนื้อโคนขาซึ่งเป็นกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ซึ่งมีพลังงานมากกว่าปลายเท้า น้ำหนักจะไม่ตกลงตรงๆบนเท้า
4.หายใจให้ถูก เตรียมตัวให้พร้อมก่อนและหลัง : เพื่อป้องกันการบาดเจ็บและเสริมพละกำลังให้สามารถออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ การหายใจที่ไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดอาการจุกเสียดได้ การหายใจที่ดีควรหายใจเข้าทางจมูกและปล่อยลมหายใจออกพร้อมกันทั้งทางจมูกและปาก โดยพยายามหายใจด้วยท้องสูดหายใจเข้าไปในปอดจนท้องขยาย และบังคับปล่อยลมออกมาด้วยการเขม่วท้อง จะช่วยให้สามารถนำอากาศเข้าไปได้เต็มที่ระหว่างวิ่ง
** นอกจากนี้ก่อนและหลังวิ่งทุกครั้งควรอบอุ่นร่างกายและผ่อนคลายร่างกาย ประมาณ 4-5 นาที โดยวิ่งเหยาะๆ ด้วยความเร็วที่น้อยกว่าการวิ่งจริง พร้อมกับทำการยืดเหยียดกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกาย และเลือกใส่รองเท้าที่เหมาะสม เท่านี้ระบบไหลเวียนโลหิต ปอด หัวใจ ก็จะทำงานดีขึ้น เสริมภูมิคุ้มกันทำให้ร่างกายแข็งแรง กระตุ้นสมองให้เกิดการหลั่งเอนโดรฟินขึ้น