แนวทางปฎิบัติให้คนอายุยืนมีอยู่มากมาย นี่คือ อีกแนวทางของนายแพทย์กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ
หลักๆ คือ อย่านอนดึก จะทำให้เราแก่เร็ว ให้ออกกำลังกายกระตุ้นฮอร์โมนหนุ่มสาว
ส่วนหลักของ Anti-Aging ต้องปฏิบัติด้วยตัวเอง มีอยู่สามอย่างคือ
1. Healthy Weight ถ้าไม่อยากแก่ ต้องรักษาน้ำหนัก จากปกติรับประทานอาหาร 100% ให้ตัดออก 40% เหลือ 60% อาจงดอาหารสักมื้อหนึ่ง อย่ารับประทานแป้งและน้ำตาลเยอะ อาหารทั้งสองอย่างเป็นสาเหตุทำให้แก่เร็ว แป้งไม่ได้มีอยู่ในข้าวอย่างเดียว ยังมีในอาหารชนิดอย่างอื่นด้วย อาทิเช่น ฟักทอง
“ข้าวเป็นอาหารของคนไทยมานาน จะให้เลิกกินไปเลยคงไม่ได้ เราควรเลือกกินข้าวซ้อมมือ ข้าวมันปู ข้าวโอ๊ต เพราะจะมีกากใยอาหาร ทำให้น้ำตาลไม่เข้าสู่เลือดเร็วเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้แก่เร็ว ถ้าน้ำตาลเข้าไปจับกับโปรตีนเร็ว จะทำให้โปรตีนในตัวเราเสีย ซึ่งจะทำให้ปลายประสาทต่างๆ เสื่อมเร็วกว่าคนปกติ อย่างคนที่เป็นเบาหวาน ถ้าน้ำตาลไปจับที่ตา ตาก็จะเสื่อมเร็วกว่าปกติ
2. Healthy diet and Life style
โดยจะเริ่มที่ Healthy diet คือ อาหารสุขภาพ ไม่จำเป็นต้องเป็นอาหารเสริมราคาแพง อาหารจากธรรมชาติ พวกผักต่างๆ โดยเฉพาะคะน้า ซึ่งถือได้ว่าเป็นราชาแห่งผักเลยก็ว่าได้ แต่ที่สำคัญคือต้องรับประทานให้เหมาะสม ถ้าน้อยเกินไป ก็ไม่เห็นผล บางคนชราภาพแล้วก็อาจจะไม่สะดวกในการกินผัก อาจกินอาหารเสริม
ส่วนเรื่องไลฟ์สไตล์ อย่างการออกกำลังกายแบบ Interval Training ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรให้สิ้นเปลือง แค่การวิ่งสัก 2 นาทีสลับกับเดินอีก 2 นาที ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องประมาณ 20 นาที เพื่อออกกำลังหัวใจและปอดโดยตรง และนี่เป็นการต้านความชรา
3. Healthy Mind
ออกกำลังใจ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ
1. ออกกำลังสมอง มีวิธีการง่ายๆ ให้ลองหัดทำอะไรที่ไม่เคยทำ อย่างเคยเขียนหนังสือมือขวา ก็ลองเขียนมือซ้าย หัดแปรงฟันมือซ้าย หวีผมมือซ้าย หรือเล่นกีฬาที่เราไม่เคยเล่น ลองคบเพื่อนใหม่ เพื่อทำให้สมองอีกด้านที่ไม่ได้ใช้ได้ออกกำลัง
2. ออกกำลังใจ เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่มีการวิจัยเพื่อทำให้อายุทางชีวภาพเด็กลง นั่นก็คือ ทำสมาธิ
“ลองทำสมาธิแบบง่ายๆ คือ การทำจิตให้อยู่กับปัจจุบัน ถ้ายังทำไม่ได้ ก็อาจหาหนังสือดีๆ มานั่งอ่านเป็นการฝึกจิตให้รู้จักการจดจ่อ หรือจะฟังเพลงก็ได้ อะไรที่ทำให้เราต้องจดจ่ออยู่กับจิต ไม่จำเป็นต้องนั่งสมาธิอย่างเดียว
“ถ้าได้ออกกำลังใจ สติปัญญาก็จะเกิด จะรู้จักคำว่า แก่ก่อนแก่ เจ็บก่อนเจ็บ ตายก่อนตาย แล้วเราจะไม่กลัวความตาย คนที่กลัวแก่กลัวเจ็บและกลัวตาย มักจะตายเร็ว แต่ถ้าเราไม่กลัวเราจะไม่แก่เร็ว ทำให้มีสุขภาพที่ดีด้วย อันนี้คือหลักสูตรของ Anti-Aging ที่ฝรั่งไม่เคยสอนเลย แต่พระพุทธเจ้าทรงสอน ทางสถาบันจะมีนโยบายหลักก็คือ Buddhalogy หรือเทคโนโลยีทางพุทธ เข้ามา ซึ่งทำให้ชีวิตสมบูรณ์” ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเวชศาสตร์ กล่าว